ทะเล

จาก ทะเล

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การดูแลผิวไปเที่ยวทะเล

การดูแลผิวไปเที่ยวทะเล




กลวิธีอาบแดด และดูแลผิวสวย หลังเที่ยวทะเล

 เมืองไทย มีทะเลที่สวยงาม ไม่แพ้ใคร จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้ามาเที่ยวทะเล ดูปะการัง แล้วก็อาบแดด กันอย่างสบายอารมณ์ ไม่ใช่เฉพาะฝรั่งเท่านั้น คนไทยเราก็ ชอบไปทะเลเหมือนกัน ยิ่งฤดู ร้อนมีวัน หยุดยาวๆ หลายๆวัน คนไทย มักชอบไปชายทะเลอยู่เสมอๆ 
ถ้าไม่อยากเดินทางไกล เลือกเดินทางไปหาดใกล้ ที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนานๆ และค่าใช้จ่ายมากๆ อย่างเกาะเสม็ด เกาะช้าง หรือเหลายา ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน
ถ้าคิดจะไปทะเล ไม่ว่าจะเป็นแบบหรูหรือแบบเรียบ สิ่งสำคัญที่คุณๆ ไม่ควร ลืมนำติดตัวไปด้วย นั่นก็คือชุดว่ายน้ำ สิ่งที่จะขาดเสีย ไม่ได้ก็คือครีมทาตัวสำหรับอาบแดด ในกรณีที่อยากจะมีผิวสีแทนกลับมา และครีมกันแดด สำหรับคนที่ไม่อยากแทน กลับมา
กำหนดวันและสถานที่ที่ จะไปพักผ่อนตามชายทะเล ของที่จะเตรียมไว้ใช้ สำหรับคนที่คิดจะอาบแดด ชุดว่ายน้ำควรจะเตรียมแบบไร้สาย อาจจะเป็น วันพีซแบบกระโจมอก ที่ไม่มีสายพะรุงพะรัง ยามเมื่ออาบแดดกลับมาแล้ว เกิด เส้นขาว อยู่บนตัว หรือจะเป็นแบบบิกินี่ ที่ช่วงบนแปะไว้ติดกับทรวงน้อยๆ จะได้แทนตลอดตัว
ไปชายทะเล คงไม่ต้องหอบสมบัติบ้ากันไปเยอะ เพราะอยู่ที่นั่น การนุ่งน้อย ห่มน้อยเป็น เรื่องธรรมดา แต่สำหรับผู้ที่ร่างไม่อำนวย เสื้อยืดปล่อยชายตัว หลวมกับกางเกงขาสั้น ก็เพียงพอแล้ว

 ดูแลผิวสวย หลังเที่ยวทะเล

จะไปเที่ยวทะเลกันทั้งที ถ้ามัวแต่พะวงว่าผิวจะเกรียม แดดก็คง หมดสนุก แต่ถ้าไม่ให้กังวลก็ไม่ได้ เพราะแดดชายทะเลนั้นร้อนแรงยิ่งนัก หากไม่ระวังให้ดี มีหวังผิวที่อ่อนนุ่มจะแปลสภาพเป็นผิว ที่ไม่น่าสัมผัสได้ ฉะนั้นทางที่ดีก็เตรียม พร้อมรับมือกับ แสงแดดกันก่อน เที่ยว ทะเลครา นี้คุณจะได้สนุก กันให้สุดๆ ไปเลย
หลังจากไปเที่ยวสนุกท่ามกลางแสงแดดมาทั้งวัน ก็อย่า ลืม ใช้โลชั่นทา ผิวเพื่อป้องกันผิวลอก และเป็นสีแทน

 
เมื่อต้องออกไปสัมผัสกับแสงแดดนอกบ้าน จำไว้ให้แม่นว่าแสงแดดนั้นมีพลังในการเผาไหม้มาก ที่สุด ในช่วงเวลาระหว่าง 10.00-14.00 น. รู้แล้วก็อย่า ลืมเตรียม ทาซั้นสกรีนป้องกันเอาไว้ก่อน 
ไม่ว่าจะเยื้องกรายไปไหน ผิวหน้าของคุณจะเป็นส่วน ที่สัมผัสกับ แดดลมอย่างเต็มที่เสมอ ฉะนั้นต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ 
ลำตัวและแขนขาที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อผ้าควรจะ ได้รับการปกป้อง ที่เท่าเทียมกันด้วยซันสกรีน เพื่อไม่ให้ผิวด่างหรือสีเข้มไม่เท่ากัน

 
ริมฝีปากเป็นส่วนที่เปราะบาง ควรเลือกลิปสติก ที่ให้ความ ชุ่มชื้นต่อริมฝีปาก ประเภทมอยส์เจอไรเซอร์ลิปสติก เพื่อ ป้อง กันมิให้ริมฝีปากแห้งและแตก 
หมั่นใช้ซันแทนทาผิวทุกๆ 2 ชั่วโมง และหลังขึ้น จากน้ำ ทุกครั้ง โดยเลือกใช้ชนิดที่มีน้ำมันน้อยที่สุด 
ออยล์กับเหลื่อเมื่อรวมกันแล้วจะทำให้ผิวของคุณ มีปัญหา ดังนั้น เมื่อไปเที่ยวทะเล คุณควรจะทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ประ เภท ไร้ความมันโดยเฉพาะ

 

ที่มา : http://www.inrayong.com

 

 

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การแต่งตัวไปเที่ยวทะเล

การแต่งตัวไปเที่ยวทะเล

โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส…ฟังแล้วก็คงไม่พ้นทะเลแน่่นอน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของหลายๆคน ไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องมีเสื้อผ้าสวยๆไว้ถ่ายรูปกลับมาอวดเพื่อนๆ เลยขอแนะนำสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อคุณสาวๆไปเที่ยวทะเล ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจตลอดทริปนี้ให้คุณได้มากขึ้นทีเดียว



ชุดเดรสลายดอก

เหมาะกับใส่ไปเที่ยวทะเลมากๆ ช่วยเพิ่มสีสันให้กับท้องทะเลและตัดกับฟ้าใสๆ ถ่ายรูปออกมาแจ่มแน่นอน



ชุดว่ายน้ำ

ไปทะเลทั้งที อย่าลืมบิกินี่สักชุด อวดหุ่นสวยให้ใครๆได้อิจฉากันใส่เล่นที่ชายทะเล หรือ ในโรงแรมก็เซ็กซี่ไม่อายใคร




กางเกงขาสั้น

ใส่ไว้เดินลุยน้ำ ลุยทะเล ดูทะมัดทะแมงอีกด้วย ถ้าเป็นกางเกงยีนต์ขาสั้นก็เหมาะกับทุกชุดเลยล่ะ




แว่นกันแดด

ไม่เพียงสวมใส่เพื่อความเก๋ไก๋ ยังช่วยป้องกันดวงตาจากรัวสียูวีได้อีกด้วย
แต่ถ้าเป็นแว่นตามตลาดนัดที่ขายกันราคาถูกๆ ก็คงช่วยถนอมดวงตาไม่ได้ ใส่เพื่อความสวยเก๋อย่างเดียว




หมวกปีกกว้าง

ขณะที่อยู่กลางแดดควรใส่หมวกที่มีปีกกว้างอย่างน้อย 3 – 5 นิ้ว จะลดปริมาณแสงยูวีได้ถึงร้อยละ 50 เลยทีเดียว




รองเท้าแตะ

เลือกรองเท้าแตะที่มีสีสันสดใสไปด้วยสักคู่ เหมาะกับบรรยากาศริมทะเลสุดๆ พร้อมลุยน้ำ ลุยทราย ได้เต็มที่




กระเป๋าสาน

สาวๆญี่ปุ่นชอบนักเชียวกระเป๋าแนวนี้ เพราะนอกจากจะน่ารักคิขุแล้ว ยังจุของได้เยอะอีกด้วย


รองเท้าส้นตึกหรือส้นเตารีด
เป็นรองเท้าที่สวมใส่สบาย แถมใส่แล้วยังสวยเก๋ดูดี เพิ่มความน่ารักสดใสโดยตกแต่งด้วยดอกไม้


ที่มา : http://women.mthai.com/










อันตรายจากการเที่ยวทะเล

อันตรายจากการเที่ยวทะเล





จากเรือ

     เมื่อไปทะเลทุกคนมักกลัวฉลาม แต่ในความเป็นจริง อันตรายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว เกือบร้อยละร้อยมาจากเรือ บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ที่น่าเสียใจคือเหตุการณ์เหล่านั้นสามารถป้องกันได้ถ้าพวกเขาทราบข้อมูลล่วงหน้าและไม่ประมาท

บนท่าเรือ

     ท่าเรือหลายแห่งของเมืองไทยสร้างด้วยไม้ บางแห่งชำรุดทรุดโทรม บางแห่งอาจใช้รวมกับท่าเรือประมง มีซากปลาเน่า น้ำ หรือน้ำมันเครื่อง นักท่องเที่ยวบางคนเดินไปคุยไปโดยไม่ระมัดระวัง อาจพลัดตกไปในร่องไม้จนบาดเจ็บ บางคนเหยียบซากปลาไถลลื่นตกท่าเรือ เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีตัวอย่างมาแล้ว เวลาเราเดินบนท่าเรือ จึงควรระมัดระวังให้มาก

     หลายครั้งเราต้องปีนป่ายเพื่อขึ้นลงเรือ นี่คือช่วงอันตรายที่สุด เพราะถ้าตกน้ำไปอาจโดนเรือลอยมากระแทกอัดกับเรืออื่น ถ้าคุณใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าแตะ ส้นสูงควรถอดก่อนปีนป่าย อย่าถือของอะไรพะรุงพะรัง ใช้วิธีส่งต่อให้เพื่อนแทน อย่ารีบหรือประมาท

บนเรือ

     กองเชือกและสายสมอ: พยายามหลีกเลี่ยงอย่าเข้าใกล้เด็ดขาด บางครั้งคุณอาจไปยืนบนเชือกสมอโดยไม่รู้ตัว ขณะที่คนเรือทิ้งสมอ เชือกจะมัดเท้าแล้วดึงคุณลงไปในน้ำ บางครั้งเรืออาจต้องลากโยงหรือผูกไว้กับท่า เชือกตวัดมาโดนคุณตกน้ำ ขาดแล้วสะบัดโดนคุณจนเป็นแผล (โดยเฉพาะสายสลิงบางครั้งถึงขั้นแขนขาขาด) รอกหรือกว้านอาจหลุดจากที่เกี่ยวมาโดนคุณ แนะนำให้คุณพยายามอยู่ห่างจากเชือก สมอ กว้าน หรือรอก อย่าพยายามเข้าไปช่วยคนเรือทิ้งสมอหรือจับเชือก ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน

     กราบเรือ: หลายคนมักชอบไปนั่งเรือเดินตามกราบเรือ บางครั้งอาจมีน้ำมันเครื่องติดอยู่ทำให้ลื่นจนตกเรือ บางคนชอบจับกราบเรือ เมื่อเรือวิ่งเข้าท่าหรือเทียบกับเรืออื่น มืออาจโดนทับจนกระดูกแตกละเอียด (โดยเฉพาะเรือหางยาวเกิดขึ้นบ่อยมาก) ถ้าไม่จำเป็น อย่าไปแถวกราบเรือไม่ว่าวลาเรือจอดหรือเรือวิ่ง

     ท่อไอเสีย: เรือท่องเที่ยวหลายลำดัดแปลงมาจากเรือประมงขนาดเล็ก อาจต่อท่อไอเสียโดยตรงจากเครื่อง ชี้ลงทะเลหรือชี้ขึ้นฟ้า บางครั้งเราไม่ทราบ เดินเข้าไปใกล้ เมื่อเรือเอียงก็คว้าไว้เพื่อช่วยพยุงตัวท่อไอเสียเหล่านี้ร้อนมาก มือสุกแน่นอน และอาจจะตกใจจนตกเรืออีกต่างหาก

เดินทางกลางคืน

     - ใส่เสื้อขาวหรือสีสด อย่าใส่เสื้อสีคล้ำ เผื่อคุณตกเรือ จะเห็นได้ง่าย

     - ระวังตัวอย่างมาก อย่างเข้าไปใกล้กราบเรือหรือท้ายเรือตอนกลางคืน

     - อย่ากินเหล้าหรือของมึนเมาจนเกินไป ทำให้พลาดตกเรือได้ง่าย

     - หากจะไปไหนใกล้กราบเรือ เช่น แปรงสีฟัน ให้บอกคนอื่นเสมอ หากคุณหายไปนานจะได้ทราบ

     - สังเกตเพื่อนในกลุ่มไว้เสมอ หากหายไปจนผิดสังเกต ให้รีบติดตาม

     - ถ้าเห็นคนตกเรือ ให้รีบโยนชูชีพหรือของลอยน้ำลงไป เช่น เบาะฟองน้ำ แล้วรีบตะโกนบอกคนอื่นให้บอกกัปตันอย่าขาดสติถึงขั้นกระโดดตามไป โดยไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด

เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

     ระหว่างเดินทางถ้าเจอพายุคลื่นใหญ่ แต่เรือยังวิ่งเอาหัวสู้คลื่นโดยไม่เบาเครื่อง ยังไม่ต้องกังวลแต่ควรเข้ามาอยู่ข้างในเรือ เพื่อป้องกันตกเรือ หากเมาเรือจนอาเจียน ใช้ถุงพลาสติกใส่อ้วกอย่างไปชะโงกหัวอาเจียนลงทะเล มีคนตกเรือเพราะเหตุการณ์อย่างนี้มาแล้ว

     ถ้าคลื่นใหญ่มาก เรือจะสู้คลื่นโดยเบาเครื่องเป็นระยะ ให้หาชูชีพมาใส่ เก็บของมีค่าขนาดเล็กไว้กับตัวหาขวดน้ำจืดเทน้ำทิ้งหน่อยพอให้ลอยน้ำไว้ติดไว้ ส่วนของอื่นไม่ต้องไปห่วง

     ในกรณีที่เรือสู้คลื่นนานจนเครื่องพัง กัปตันจะพยายามทิ้งสมอ แต่บางครั้งสมออาจไม่ถึงพื้นเรือจะถูกคลื่นซัดจนขวางคลื่น และอาจพลิกคล่ำได้ ในกรณีเช่นนี้ ให้คุณมาอยู่ใกล้ทางออกจากเก๋งอย่าเข้าไปอยู่ข้างใน เพราะหากเรือคว่ำอาจหาทางออกไม่เจอและติดอยู่ในเรือ

     เมื่อเรือคว่ำ ว่ายออกห่างจากเรือเร็วที่สุด จากนั้นค่อยหาอะไรประคองตัวไม่ต้องขาดสติกลัวฉลามหรือสัตว์อื่นมาทำร้าย ปัจจุบันฉลามในทะเลไทยมีน้อยจนเกือบสูญพันธุ์แล้ว คนที่ตายเพราะเรือจมไม่ใช่เพราะฉลาม แต่เป็นเพราะขาดสติหรือกลัวจนจมน้ำตายมากกว่า

 

อันตรายเมื่อไปดำน้ำ
    

            อันตรายน่ากลัวที่สุดคือโดนเรือชนหรือโดนใบพัดเรือฟัน มีเหตุการณ์เกิดขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่เสียชีวิตการป้องกันคืออย่าว่ายเข้าใกล้เรือวิ่งเด็ดขาด เวลาขึ้นจากน้ำต้องนับจำนวนคนก่อนออกเรือ

          ถ้าไปดำน้ำแบบ Snorkelling โดยใช้เรือหางยาว ควรเลือกไปจุดดำที่มีนักท่องเที่ยวไม่มากนักระวังตัวเสมอเวลาดำน้ำในเขตที่มีสกูตเตอร์ เรือเร็ว หรือกีฬาทางน้ำแบบอื่น

    เกือบทุกครั้งที่ไปดำน้ำ เรามักได้แผลจากเรือกลับมาด้วยเสมอ โดยเฉพาะตอนขึ้นลงเรือ (หางยาว) บางครั้งใช้การลากหรือดันขึ้น เนื้อเราอาจครูดกับข้างเรือหรือเพรียงจนเป็นแผล บางครั้งอาจตกลงไปไหล่หลุด หากเป็นคุณผู้หญิงไม่มีแรง ควรหาเรือที่มีบันไดช่วยปีนได้ง่ายขึ้น

            เวลาลอยตัวในน้ำ อย่าห้อยโหนกับเรือหรือกับเชือกสมอเรือ อาจเกิดอันตรายหลายรูปแบบ

 

อันตรายบนเกาะ
          

          โบราณว่าไว้ อันตรายมักอยู่ใกล้ตัว คุณอาจไปดำน้ำมาทั้งวันสนุกสนานเฮฮา แต่มาโดยตะขาบต่อยในถุงนอนหรืองูกัดในเต็นท์ จากนี้ไปอข้อแนะนำบางประการ

          ชายหาดเมืองไทย ถึงแม้จะเป็นเกาะห่างไกล อาจมีเศษแล้วหรือไม้ติดตะปู หลอดไฟจากเรือไดหรือฝาขวดเบียร์ ระวังทุกครั้งที่ย่างก้าวลงไปบนชายหาด

          แมลงหรืองูมักเข้าไปอยู่ตามกองเสื้อผ้าหรือที่อับ บางครั้งอาจแอบอยู่ในรองเท้า ควรตรวจสอบก่อนเสมอ อย่าวางใจ

          เวลาเดินตามทางในป่า พึงระลึกว่างูกับกิ่งไม้คล้ายกันมาก เคยมีคนเดินเหยียบงูตามเกาะหลายครั้งกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลกินเวลาหลายชั่วโมง ใช้ไฟฉายทุกครั้งอย่าใช้แสงจันทร์ มีกิ่งไม้ติดมือเอาไว้จุดที่ไม่แน่ใจ

          หากไปเดินย่ำน้ำตามชายหาด ระวังเศษปะการัง เพรียง หรือหอยนางรม อย่าประมาทปลากระเบนขนาดเล็กที่มักหมกตัวอยู่ตามพื้นทรายในน้ำตื้น พยายามเดินก้าวสั้นๆ

          อย่าทิ้งขนมหรือของหวานไว้ แล้วกลับมากิน ครั้งหนึ่งเราเคยเจอแมลงสาบนอนยิ้มอยู่ในกระป้องนมข้นหวาน ปัญหาคือเราเจอเค้าเมื่อกินนมหมดกระป๋องแล้ว ช่วยกันรักษาความสะอาดเสมอ

          เกาะหลายแห่งมียุงอาศัยอยู่เยอะ บางเกาะอยู่ใกล้ชายแดน อาจมีปัญหาโรคติดต่อ เช่น มาลาเรีย ไข้เลือดออก เตรียมยากันยุงไปด้วยเสมอ บางครั้งอาจต้องกินยาป้องกันมาลาเรีย

 

อันตรายระหว่างดำน้ำ
        

          ห้ามไปดำน้ำคนเดียวโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็น Snorkelling หรือ SCUBA ต้องมีเพื่อนไปด้วยอย่าประมาท เคยมีคนไปดำน้ำลึกแค่สองเมตร แต่โดนกระแสน้ำพัดแรงไหลออกทะเล ต้องเอาเรือไปช่วยมาแล้ว โปรดดำน้ำไปช่วงเวลาและสถานที่ซึ่งผู้ควบคุมกำหนดให้ ถ้าไม่แน่ใจโปรดถาม หากไป Snorkelling โปรดใส่ชูชีพไว้ อย่าใช้เกาะเพราะอาจหลัดหลุดได้

      การไปดำน้ำ SCUBA ต้องปฏิบัติตามกฎโดยเคร่งครัด ต้องมีบัตรดำน้ำ อย่าคิดเรียนด้วยตัวเอง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ร้องบอกคนอื่น แต่อย่าตกใจว่ายน้ำโครมคราม อาจเหนื่อยจนหมดแรงได้

  เลือกเวลาลงน้ำให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงช่วงคลื่นหรือกระแสน้ำแรง (ดูจากตารางน้ำหรือถามผู้ชำนาญ) อย่าเสี่ยงลงดูที่สวยแต่อันตราย ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ

           หากโดนกระแสน้ำ อย่าพยายามว่ายสวนเพราะจะเหนื่อยได้ง่ายมากให้รีบบอกคนอื่น ลอยตัวไปตามกระแสน้ำจนกว่าจะมีเรือมารับ

           นับจำนวนเพื่อนหลังดำน้ำเสมอ พยายามเกาะกลุ่มกันไว้ อย่าแยกไปคนเดียว

           สัตว์ในทะเลทุกชนิดไม่ต้องการจู่โจมเพื่อกินหรือทำร้ายมนุษย์ เมื่อเจออาจหลีกเลี่ยง แต่ไม่ต้องกลัวถึงว่ายน้ำหนีจนขาดสติ อาจเกิดอันตรายอย่างอื่น

 

สัตว์ทะเลที่อาจมีอันตราย
    

      ข้อมูลที่นำเสนอนี้ไม่ใช้คำว่า "สัตว์ทะเลมีพิษ" เพราะฉลามหรือเม่นทะเลไม่มีพิษ  แต่อาจมีอันตรายได้ เราจึงรวมเรื่องของสัตว์ทะเลที่มีอันตรายไว้ทั้งหมด ทั้งมีพิษและไม่มีพิษ แต่ทั้งนี้ไม่รวมสัตว์ทะเลที่กินแล้วมีพิษ เช่น แมงดา ปลาปักเป้า ฯลฯ แต่อยากแนะนำว่าอย่ากินอะไรแปลกๆ ไม่น่าไว้ใจ  อนึ่ง สรรพชีวิตทั้งหลายในทะเล มิได้ต้องการจู่โจมทำร้ายมนุษย์ อันตรายที่เกิดขึ้นเกือบทั้งหมดเป็นเพราะเขาป้องกันตัว มีน้อยมากที่ทำร้ายเราเพราะต้องการอาหาร และในจำนวนนั้นทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด สิ่งมีชีวิตหลายแสนชนิดของท้องทะเล ไม่มีชนิดใดที่ล่ามนุษย์เป็นอาหารโดยตรง คนที่ทำร้ายสัตว์ทะเลก่อน เพราะกลัวเขาจะทำร้ายเรา คนพวกนี้มักได้รับอันตรายจากสัตว์ทะเล

       สัตว์ทะเลมีพิษ

     ปลา : ปลาหลายชนิดมีพิษอยู่ที่เงี่ยง พิษเหล่านี้ใช้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น เช่น ปลากระเบน ปลาหิน ปลาสิงโต ปลาดุกทะเล ปลาสลิดทะเล ฯลฯ โอกาสที่เราจะโดนพวกเขาทำร้ายมีน้อยมาก ทุกกรณีเกิดจากเราไปทำร้ายเขาก่อน ตัวอย่างต่อไปนี้คือเหตุการณ์ที่เคยเกิดมาแล้ว

     - นักท่องเที่ยวไปเดินในน้ำตื้นแล้วเหยียบปลากระเบน

     - นักท่องเที่ยวไปจับปลาดุกทะเลหรือสลิดทะเลที่ตายแล้ว แต่เงี่ยงยังมีพิษอยู่

     - นักดำน้ำไปจับหรือโดนปลาหินหรือปลาสิงโตเพราะไม่ระวังตัว

     - นักดำน้ำไปขี่หรือเกาะปลากระเบน บางตัวใหญ่มาก เงี่ยงอาจทะลุตัวเหมือนโดนแทงได้

     อาการ - เมื่อโดนจะปวดแผลฉับพลัน อาจตกใจหรือเกิดตะคริวจนจมน้ำได้

     รักษา - ดึงเงี่ยงที่อาจหักค้างอยู่ออกจากแผล ใช้ของร้อนประคบ เช่น น้ำอุ่น ที่เป่าผม หินเผาไฟดูอาการว่าถ้ารุนแรงให้นำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที

    งูทะเล : ในทะเลมีงูประมาณ 50 ชนิด พบบ่อยที่สุดในแนวปะการังเมืองไทยคืองูทะเลปล้องดำมีพิษร้ายแรง แต่โดยธรรมชาติงูทะเลจะไม่ทำร้ายมนุษย์โดยเจตนา (ยกเว้นในช่วงผสมพันธุ์และเป็นเพียงบางครั้ง) ตามปรกติงูทะเลจะไม่สนใจเราเลย เขาจะว่ายน้ำหาอาหารโดยมุดหัวไปตามซอกแล้วใช้จมูกดมเพื่อกินไข่ปลาหรือกุ้ง บางครั้งเขาอาจเข้ามาใกล้เรามาก ไม่จำเป็นต้องตกใจจนว่ายหนีฉุกละหุกเมื่อเจองูทะเลให้ว่ายหนีออกมาช้าๆ หากโดนงูทะเลกัดพิษงูจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อ (พิษงูทะเลเป็น Myotoxic มีผลต่อกล้ามเนื้อ) ปัสสาวะมักเปลี่ยนสี สามารถปฐมพยาบาลเหมือนโดนงูกัด แล้วหาแพทย์ทันที อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนไม่เคยได้ยินว่ามีนักท่องเที่ยวหรือนักดำน้ำโดนงูทะเลกัด ทั้งหมดที่ทราบคือชาวประมงที่าปลาในป่าชายเลน

     เม่นดอกไม้ : เม่นดอกไม้และเม่นขนสั้นบางชนิด พบตามพื้นทรายนอกแนวปะการัง มีพิษร้ายแรง อย่าจับโดยเด็ดขาด แต่หากโดนให้ไปพบแพทย์โดยด่วน

     ดาวหนาม : ดาวหนามเป็นสัตว์กินปะการัง พบได้ทั่วไป หนามตามตัวแข็งและแหลมมาก หากโดยเข้าไปจะรู้สึกเจ็บแปลบ แผลจะหายยากมาก บางครั้ง 6 เดือนแล้วยังไม่หาย (โดนมาแล้ว)

     หมึกทะเล : หมึกทะเลเป็นสัตว์เป็นสัตว์กลุ่มหอย ทุกชนิดสามารถกัดเราด้วยฟันแหลมคล้ายปากนกแก้ว บางชนิดมีพิษ เช่น หมึกกระดอง แต่ส่วนใหญ่พิษมักไม่มีผลต่อมนุษย์ ยกเว้นหมึกสายวงฟ้า มีพิษร้ายแรงมากจนถึงตาย แต่เท่าที่ทราบ ไม่มีรายงานหมึกสายกลุ่มนี้ในเมืองไทย

     หอยเต้าปูนะ : หนึ่งในสัตว์มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก (ใช้ยิงไดโนเสาร์ในเรื่อง The Lost World) ฟันหอยเปลี่ยนรูปเป็นฉมวก เมื่อหอยเจอเหยื่อหรือป้องกันตัว จะยื่นงวงออกมาก่อนยิงฉมวกใส่ หลายชนิดมีพิษถึงตาย เช่น หอยเต้าปูนลายแผนที่ การหลีกเลี่ยงทำได้ง่ายมาก คือไม่พยายามไปจับหอยเหล่านั้นหรือเก็บหอยมาไว้ในกระเป๋าเพื่อเอากลับบ้านเป็นของที่ระลึก

     แมงกะพรุน : พิษเกิดจากเข็มพิษเรียกว่า Nematocyst (นีมาโตซิส) ความรุนแรงของพิษแตกต่างกันออกไปตามแต่ชนิดและขนาดตัว พิษเหล่านี้อยู่ที่หนวดและยังมีพิษอยู่แม้แมงกะพรุนตายแล้ว หนวดบางเส้นยาวแต่ใส ทำให้พวกเรามองไม่เห็น วิธีการว่ายหลบแมงกะพรุนจึงควรหลบทางหัว อย่างหลบทางหนวดโดยเด็ดขาด แมงกะพรุนบางชนิดมีพิษรุนแรงถึงตาย เช่น แตนทะเล แต่มีอยู่น้อยมากไม่ค่อยพบในน่านน้ำไทย

     ปะการัง ดอกไม้ทะเล ไฮดรอยด์ : มีเข็มพิษที่หนวดเช่นเดียวกับแมงกะพรุน หากสัมผัสโดยผิวหนังจะมีอาการ เป็นผื่นแดง คันมาก บางชนิดมีพิษแรงอาจถึงขั้นแผลไหม้ สามารถปฐมพยาบาลไดโดย อย่าใช้น้ำราดแผลเพราะจะทำให้เข็มพิษยิงต่อไป ให้รีบหยิบหนวดที่อาจติดอยู่ทิ้งไป (คนหยิบต้องใส่ถึงมือด้วยนะครับ) ใช้น้ำส้มสายชูจำนวนมากราดแผล ฤทธิ์ของน้ำสมสายชูจะหยุดการทำงานของเข็มพิษ หากเป็นมากให้ส่งแพทย์โดยด่วน

     ฉลาม : สัตว์ชอบงับมนุษย์ตามสายตาของคนทั่วไป แต่เป็นปลาที่สง่างามและยิ่งใหญ่ที่สุดของท้องทะเลในสายตาบางคน สำหรับเรา หลายสิบครั้งที่เจอ เราไม่เคยว่ายหนีฉลาม เพราะทราบดีว่าเขาไม่ใช่สัตว์ดุร้ายฉลามบางชนิดอาจเป็นอันตราย เช่น ฉลามเสือ แต่หลายชนิดไม่ได้เป็นเช่นนั้น เช่น ฉลามครีบเงินฉลามหัวค้อน มีรายงานว่าจู่โจมมนุษย์น้อยยิ่งกว่า ส่วนใหญ่เป็นคำร่ำลือในท้ายที่ผิดมากกว่า ไม่มีรายงานว่าฉลามจู่โจมมนุษย์ในเมืองไทย มากกว่า 30 ปีแล้ว แต่ถ้าคุณเจอฉลาม จงใช้ความระมัดระวังทุกครั้ง อย่าประมาท อาจค่อยๆ ว่ายน้ำหนีห่างออกมา แต่ไม่จำเป็นต้องตกใจ โอกาสฉลามกินคนในเมืองไทย น้อยกว่าโอกาสที่รถจะวิ่งเข้าไปชนคุณถึงเตียงนอนในบ้านเสียอีก

     ปลาสาก : รูปร่างที่น่ากลัว ทำให้หลายคนกลัวปลาสาก แต่ความเป็นจริงแล้วเราไม่เคยได้ยินว่าปลาสากจู่โจมมนุษย์ในเมืองไทย แม้แต่ในเมืองนอกก็น้อยเต็มที ปรกติปลาสากจะรวมฝูงเพื่อพักผ่อนในตอนกลางวัน บางครั้งอาจว่ายมาดูเราจนใกล้หรือติดตามเราตลอดดำน้ำ ถือเป้นเรื่องปรกติ ในตอนกลางคืนปลาสากจะล่าเหยื่อ คนที่ไป Night Dive อาจจะเป็นปลาสากพุ่งเข้าใส่ แต่ไม่ต้องกลัว เพียงหลบออกจากบริเวณนั้นหรือดับไฟหลอกล่อ ปลาสากจะหนีไปในที่สุด

     ปลาไหลมอเรย์ : แม้รูปร่างจะน่ากลัว แต่ปลากลุ่มนี้ไม่ดุร้าย โอกาสที่เราโดยเขากัด มักเป็นช่วงผสมพันธุ์หรือเขาอยู่ในโพรง เรามองไม่เห็นไปจับข้างโพรง จึงโดนกัด

     เม่นทะเล : เม่นดำหนามยาวเป็นสัตว์ที่ทุกคนรู้จักดี หลายคนเคยโดนหนามเม่นทิ่มมาก่อน วิธีการแก้ไขไม่ยาก ใช้ขวดนวดแผลไปมา หนามข้างในจะแตกและหายไปในเวลา 24 ชั่วโมง อย่าบ่งหรือทุบแผลรุนแรง อาจอักเสบให้กินยาแก้ปวดช่วย การป้องกันให้ระวังตัวเสมอ โดยเฉพาะนักดำน้ำแบบ Snorkelling อย่ายืนบนก้อนปะการัง อย่าเข้าไปในบริเวณที่ตื้นมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีคลื่นลม คลื่นอาจซัดเราไปโดนเม่นทะเลได้

     สัตว์อื่น : มีสัตว์อีกหลายชนิดที่อาจเป็นอันตราย เช่น บุ้งทะเล ปะการังไฟ ฟองน้ำไฟ กั้งตั๊กแตน ปลาปักเป้า เพรียง หอยนางรม ฯลฯ แต่ทุกอย่างมีทางป้องกันโดยไม่ประมาท และระวังตัวอยู่เสมอ ข้อแนะนำที่ได้ผลดีที่สุดคือ "อย่าจับสัตว์ทะเลทุกชนิด ไม่ว่าคุณจะรู้จัก คิดว่ารู้จัก หรือไม่รู้จัก" เราจะไม่ทำร้ายสัตว์ทะเลและไม่ทำร้ายตัวเราเอ สำหรับแผลที่เกิดขึ้นจากปะการังหรือสัตว์ใต้ทะเลทำร้าย บางครั้งอาจติดเชื้อจากน้ำทะเล ให้ใช้ยาฆ่าเชื้อและรักษาความสะอาดแผลอย่างดี

 ที่มา : http://www.dnp.go.th

สุดยอดสถานที่ฮานีมูลทะเลไทย

สุดยอดสถานที่ฮานีมูลทะเลไทย

เกาะพีพี




เกาะพีพีตั้งอยู่ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ”หาดนพรัตน์ธารา” ในจังหวัดกระบี่ หรือจะให้เห็นภาพได้ขัด เจนขึ้นก็คือเกาะที่ถ่ายหนังเรื่อง “The Beach” ที่นำเเสดงโดย “Leonardo Dicaprio” โดยการที่เกาะนี้ ถูกเลือกโดยฮอลลีวูดก็เนื่องมาจากการที่เกาะนี้ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นเกาะ ที่มีความสวยงาม ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โดยมีความเเตกต่างจากเกาะอื่น คือ การโค้งของอ่าวที่ตีวงเข้าหากัน และมีหาดทรายคั่น ตรงกลาง ยิ่งไปกว่านั้น เกาะพีพียังเป็นที่ขึ้นชื่อสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปดำน้ำดูปะการังอีกด้วย ส่วนการเดินทางไปยังเกาะพีพีนั้นสามารถทำได้โดยการขับรถออกจากตัวเมือง ไปตามถนนสายในเมือง -ในสระ ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร ถึงหาดนพรัตน์ธาราฯ จากนั้นจึงใช้้ถนนเลียบชายทะเล เชื่อม ระหว่าง หาดนพรัตน์ธาราฯ ไปถึงหาดบ้านอ่าวนาง ไปทางทิศใต้ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร โดยจะ ต้องนั่งเรือคลองแห้ง ที่อยู่หลังที่ทำการอุทยาน ซึ่งจะมีเรือคอยไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่

ทะเลแหวก



หลายๆคนคงเคยได้ยินกิติศัพท์ของที่นี่ในเรื่องความสวยงามกันมาบ้างเเต่ขอบอกนะคะว่าไม่อาจเทียบได้เลยกับการได้ไปเยือนจริงๆเเม้เเต่น้อยค่ะคิดภาพเราอยู่บนทางเดินเชื่อมระหว่างเกาะที่รายรอบด้วยทะเลเเละท้องฟ้าสีคราม ซึ่งทะเลแหวกนั้นก็คือ ทางเดินของสันทรายที่โผล่ออกมาหลังน้ำทะเลลดระดับลง โดยมีลักษณะเป็นพื้นที่ซึ่งเชื่อมติดกันระหว่าง 3 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ โดยสันทรายนี้จะเห็นได้ตอนที่น้ำลด และหายไปในตอนที่น้ำขึ้น เมื่อน้ำทะเลลดระดับลง สันทรายก็จะโผล่ขึ้นมาเหมือนแนวสันทรายแหวกน้ำทะเลเป็นที่มาของชื่อทะเลเเหวกนั่นเองค่ะนอกจากนี้ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในด้านชายหาดที่มีทรายขาวสะอาด เป็นผลมาจากน้ำที่ท่วมสันทรายนั้นได้กวาดใบไม้ และขยะไปกับทะเล โดยการเที่ยวชมทะเลแหวก นั้นควรมาชมในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงต่ำสุด โดยเฉพาะในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการฮันนีมูนทีสุดคือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน


เขาขนาบน้ำ




ยังคงอยู่ในจังหวัดกระบี่อยุ่เช่นเดียวกันนะคะ สำหรับเขาขนาบน้ำซึ่งเป็นเขา 2 ลูกที่มีความสูงประมาณ 100 เมตรที่วางตัวขนานกันกับแม่น้ำกระบี่ ด้านตัวเมือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ จังหวัดนี้นั่นเอง ซึ่งถ้าหากต้องการที่จะชื่นชมทัศนียภาพระหว่างแนว เทือกเขา และป่าชายเลนบริเวณนี้ ก็สามารถจะขึ้นเรือหางยาว ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังมีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของหินงอกหินย้อยที่งดงามมาก เเล้วยังรวมไปถึงการเยี่ยมชมซากโครงกระดูกของมนุษย์จำนวนมากที่อยู่ถ้ำเช่นกัน โดยได้รับการสันนิษฐานว่าอาจ เป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ในอดีต แต่เกิดภัยพิบัติขึ้นจึงมีการล้มตายจำนวนมากเเละสามารถพายเรือแคนนูเพื่อชมธรรมชาติของป่าชายเลนบริเวณนั้นได้อีกด้วยเรียกได้ว่าคู่รักที่ไปจะได้รับทั้งอารมณ์ความตื่นเต้นผจญภัยไปจนถึงเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติที่ยากจะได้สัมผัสในเมืองใหญ่



ที่มา : http://www.weddinghitz.com/

ข้อปฏิบัติ เที่ยวทะเลสนุก-ปลอดภัย

ข้อปฏิบัติ...ให้ เที่ยวทะเลสนุก-ปลอดภัย






ข้อปฏิบัติในการไปเที่ยวทะเลเป็นอีกหนึ่งหนทางที่นักท่องเที่ยวควรมี ความรู้เรื่องเหล่านี้เพื่อเที่ยวทะเลได้แบบสนุกและปลอดภัย

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาค เรียนที่ตรงกับฤดูร้อน หลายครอบครัวจึงวางแผนที่จะไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลทางภาคตะวันออกและภาคใต้ เพื่อชมความงามของทัศนียภาพชายทะเล หาดทราย เกาะต่างๆ และปะการังใต้ท้องทะเล รวมถึงพักผ่อนคลายร้อน ซึ่งการไปท่องเที่ยวทะเล มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติภัยทางน้ำได้

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย มีข้อแนะนำสำหรับการปฏิบัติตนในการไปท่องเที่ยวทะเลอย่างปลอดภัย ดังนี้

ก่อนออกเดินทางตรวจสอบเส้นทางและศึกษาสภาพอากาศของแหล่งท่องเที่ยว โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ หากมีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับคลื่นพายุลมแรง ควรงดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ตรวจสอบสภาพแหล่งท่องเที่ยว หากเป็นบริเวณที่มีคลื่นสูง มีทรายดูด เป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษ เคยเกิดคลื่นน้ำทะเลดูด (Rip Current) หรือคลื่นซัดฝั่งอย่างรุนแรง

ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว จัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็น เช่น ยารักษาโรค ห่วงยาง ชูชีพ เป็นต้น เพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน



ขณะเล่นน้ำทะเล ไม่เล่นน้ำหลังรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้เป็นตะคริวที่ท้อง ทำให้จมน้ำได้ ควรพักประมาณ 1 ชั่วโมงหลังทานอาหาร เล่นน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย ห้ามเล่นน้ำบริเวณน้ำลึก บริเวณที่มีคลื่นลมแรงและมีโขดหินอย่างเด็ดขาด โดยสังเกตธงที่ปักแสดงความลึกของระดับน้ำ หากเป็นธงสีเขียว แสดงว่าสามารถเล่นน้ำได้

หากเป็นธงสีแดงหนึ่งอันแสดงว่าอันตราย แต่ถ้าเป็นธงสีแดง 2 อันแสดงว่าพื้นที่นั้นอันตรายมาก ส่วนธงสีเหลือง แสดงว่าให้ระวัง ไม่ควรเล่นน้ำตามลำพัง หากว่ายน้ำไม่เป็น ควรสวมใส่เสื้อชูชีพหรือห่วงยาง เพื่อป้องกันการจมน้ำ ห้ามว่ายน้ำเข้าใกล้เรือขณะที่เรือกำลังแล่นอย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกเรือชนหรือใบพัดเรือบาด ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง

ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้คลาดสายตาเพราะหากเด็กถูกคลื่นซัด หรือเป็นตะคริว จะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองให้ปลอดภัยได้

การปฏิบัติตนในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากถูกคลื่นทะเลดูด ให้ว่ายน้ำเลี่ยงจากจุดที่คลื่นทะเลดูดและรีบว่ายเข้าหาฝั่งทันที กรณีถูกคลื่นทะเลซัดอย่างรุนแรงห้ามว่ายสวนกระแสน้ำ ให้ว่ายขนานกับชายฝั่ง จะช่วยให้พ้นจากกระแสน้ำได้

นอกจากนี้ การดำน้ำชมปะการังก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม หากขาดความระมัดระวังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงมีข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ดังนี้

1.ตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลม ในบริเวณที่จะไปดำน้ำ หากคลื่นลมรุนแรงเกินไปก็ไม่ควรดำน้ำในบริเวณดังกล่าว ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อห้ามของพื้นที่ที่เข้าไปดำน้ำทุกครั้ง

2.ในการดำน้ำบริเวณลึก จะต้องเรียนดำน้ำอย่างถูกวิธีและเลือกใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่เหมาะสมกับการใช้ งาน

3.ห้ามดำน้ำขึ้น - ลงอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้ก๊าซภายในปอดขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้าไปอยู่ ในเลือด โดยเฉพาะช่วงขึ้นจากน้ำ จนทำให้เลือดขึ้นไปอุดตันสมอง จนเกิดภาวะน็อกน้ำทะเล ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้

4.กรณีถูกกระแสน้ำซัด อย่าว่ายสวนหรือว่ายทวนน้ำ จะทำให้เหนื่อยง่าย ให้ใช้วิธีลอยตัวไปตามกระแสน้ำ รอจนกว่าจะมีเรือมารับ

5. ไม่ควรดำน้ำตามลำพัง ควรมีกลุ่มเพื่อนลงไปดำน้ำด้วย เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีคนคอยช่วยเหลือ และพยายามเกาะกลุ่มไว้ เพื่อไม่ให้พลัดหลง และควรหยุดดำน้ำทันที หากเริ่มมีกระแสน้ำพัดห่างออกจากฝั่งไปเรื่อยๆ หรือมีฝนตั้งเค้าและเริ่มมีคลื่นลมรุนแรงขึ้น

จะเห็นได้ว่า การท่องเที่ยวทางทะเลมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยทางน้ำได้ในหลากหลาย รูปแบบ ดังนั้น ก่อนเดินทางควรตรวจสอบสภาพอากาศและสภาพพื้นที่ จัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งของที่จำเป็น เลือกสถานที่ในการเล่นน้ำหรือดำน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญหากนำเด็กไปด้วยต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพังอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การท่องเที่ยวทางทะเลเป็นการพักผ่อนคลายร้อนที่เต็มไปด้วยความสนุก สนานและปลอดภัย


ข้อควรระวัง เมื่อพาเจ้าตูบเที่ยวทะเล

ข้อควรระวัง เมื่อพาเจ้าตูบเที่ยวทะเล




 - ช่วงอากาศร้อนแบบนี้ถ้าจะพาสุนัขออกนอกสถานที่ ควรมีผ้าเย็นหรือเจลเก็บความเย็นติดไปด้วยนะคะ เพราะอากาศบริเวณทะเลอาจจะมีไอร้อน ซึ่งอาจจะทำให้สุนัขเหนื่อยหอบ และเกิดอาการ Heat ได้ค่ะ ดังนั้นควรเตรียมอุปกรณ์คลายร้อนไปให้น้องหมาด้วยนะคะ
 - ชามใส่อาหาร - ใส่น้ำ สำหรับสุนัข รวมไปถึงของเล่นชิ้นโปรดของเขาด้วย
 - แชมพูอาบน้ำสุนัข และผ้าเช็ดตัว สำหรับใช้อาบน้ำสุนัขหลังขึ้นจากน้ำทะเล
 - สายจูง เป็นสิ่งจำเป็น หากเรานั่งกินอาหาร เราจะได้จูงหรือผูกไว้ เค้าจะได้ไม่เดินหายไปในที่เราไม่รู้ค่ะ
- ถุงพลาสติก ใช้เก็บอุจจาระของสุนัขในกรณีที่ขับถ่ายบริเวณชายหาด เราจะต้องรีบเก็บให้เรียบร้อย เรื่องความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคนเลี้ยงสัตว์นะคะ
- ป้ายชื่อเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หากสุนัขพลัดหลงกับเจ้าของ จะได้ติดตามหาเจ้าของได้ง่ายๆ
ถึงทะเลแล้วไปเล่นน้ำกันเถอะ ... เดี๋ยวก่อนๆ อย่าเพิ่งใจร้อนค่ะ ก่อนจะพาเจ้าตูบไปลั้ลลาในทะเล เราควรจะทรายก่อนนะคะว่า มีหลายสิ่งที่เดียวที่เราต้องระวังเพื่อพาสุนัขมาเที่ยวทะเล คือ

- อุบัติเหตุจากรถเฉี่ยวชน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่วิ่งตามถนนเลียบชายหาด รวมไปถึง ใบพัดเรือที่มักจะกระดกขึ้นมาเมื่อเรือจอด เวลาพาน้องหมาไปเดินเล่นบริเวณชายหาดต้องระวังเอาไว้ด้วยนะคะ
- สิ่งแปลกปลอมที่อยู่บริเวณหาดทราย เช่น เศษหอย ปะการัง หิน รวมถึงเศษขวดแก้ว กระป๋องอลูมิเนียม สุนัขอาจโดนสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้บาดเท้าได้
- สัตว์ทะเลหรือแมลงมีพิษต่างๆ เช่น แมงกะพรุน หอยคัน หรือปลาสิงโต ฯลฯ ก็เป็นสิ่งที่เราต้องระวัง เพราะถ้าหากน้องหมาเผลอไปโดนแล้วอาจจะทำให้มีอาการแสบ คัน บวม และถ้ามีอาการอักเสบรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียวนะคะ
     และถ้าหากเผลอกินสัตว์พวกนี้เข้าไปล่ะก็อาจทำให้พิษเข้าสู่ร่างกายสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายมากๆ
  - ความร้อนจากแดดก็สามารถทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกันค่ะ ถ้าสุนัขวิ่งเล่นกลางแดดเป็นเวลานานๆ น้องหมาอาจเกิดอาการลมแดดได้นะคะ นอกจากนี้ การตากแดดแรงๆ อาจทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบบริเวณปลายจมูก และขอบตา ได้อีกด้วยล่ะค่ะ
     - ความร้อนของพื้นทราย อาจทำให้เท้าของสุนัขเป็นแผลพุพองได้ โดยที่เราเองก็ไม่ทันสังเกตค่ะ
     - ถ้าหากพาสุนัขลงเล่นน้ำทะเลแล้วไม่ได้ใช้น้ำจืดล้างออกจึงถูกเกลือกัดผิวหนัง ทำให้คันและเกาจนเป็นแผลได้

ทะเลจังหวัดนราธิวาส

ทะเลจังหวัดนราธิวาส





จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย เป็นจังหวัดชายแดนใต้สุดของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของแหลมมลายู ห่างจากกรุงเทพฯ ทางรถยนต์ประมาณ 1,149 กิโลเมตร โดยมีเนื้อที่ประมาณ 4,475.43 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,797,143.75 ไร่ ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดปัตตานีในเขตอำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น และอ่าวไทย ทิศตะวันออกติดต่อกับอ่าวไทยและรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ทิศใต้ติดต่อกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดยะลาในเขตอำเภอบันนังสตา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้และภูเขา 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด มีป่าพรุประมาณ 361,860 ไร่ ทางแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้จรดทิวเขาสันกาลาคีรีซึ่งเป็นแนวกั้นพรมแดนไทย-มาเลเซีย ลักษณะพื้นที่จะมีความลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศตะวันออก พื้นที่ราบส่วนใหญ่อยู่บริเวณติดกับอ่าวไทยและที่ราบลุ่มบริเวณแม่น้ำ 4 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำตากใบ และแม่น้ำโก-ลก มีประชากรจำนวน 717,366 คน แยกเป็นชาย 356,229 คน หญิง 361,137 คน โดยจังหวัดนราธิวาสมีศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการอุตสาหกรรมอยู่ที่อำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่และมีความเจริญกว่าตัวจังหวัดมาก

ดอกไม้ประจำจังหวัด :  ดอกบานบุรีเหลือง (Odontadenia macrantha)
ต้นไม้ประจำจังหวัด :  ตะเคียนชันตาแมว (Neobalanocarpus heimii)
คำขวัญประจำจังหวัด : นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน

อ่าวมะนาว



วนอุทยานอ่าวมะนาว ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ ตามทางหลวงหมายเลข 4084 (นราธิวาส-ตากใบ) ประมาณ 3 กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก 3 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกัน ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร มีโขดหินคั่นสลับโค้งหาดเป็นระยะ ด้านหนึ่งติดพระตำหนัก ทักษิณราชนิเวศน์

ที่มา : http://travel.upyim.com/tag
 

ทะเลจังหวัดระนอง

ทะเลจังหวัดระนอง



จังหวัดระนอง เป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้ มีพื้นที่ประมาณ 2,141,250 ไร่ มีพื้นที่ติดต่อทางตะวันออกติดต่อกับจังหวัดชุมพร ทางใต้ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดพังงา ทางตะวันตกติดกับประเทศสหภาพพม่า และทะเลอันดามัน มีลักษณะพื้นที่เรียวและแคบ มีความยาวถึง 169 กิโลเมตร และมีความแคบในบริเวณอำเภอกระบุรี เพียง 9 กิโลเมตร
ระนองเป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเรืองอำนาจ เดิมเป็นหัวเมืองขนาดเล็ก เป็นเมืองขึ้นของเมืองชุมพร คำว่าระนอง เพี้ยนมาจากคำว่า แร่นอง เนื่องจากจังหวัดระนอง มีแร่อยู่มากมาย

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกโกมาชุม (Dendrobium formosum)
ต้นไม้ประจำจังหวัด: อินทนิล (Lagerstroemia spesiosa)
คำขวัญประจำจังหวัด: คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง ("กาหยู" หมายถึงมะม่วงหิมพานต์)

อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laem Son National Park) 





เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบไปด้วยป่าชายเลน หาดทราย และแนวปะการัง มีพื้นที่ 315 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมอำเภอเมืองและอำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง และอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
สภาพทางภูมิศาสตร์

อุทยานแห่งชาติแหลมสนประกอบไปด้วยชายฝั่งยาวประมาณ 60 กิโลเมตร มีหมู่เกาะ 2 แห่ง คือ หมู่เกาะกำใหญ่ และหมู่เกาะกำนุ้ย และเกาะอื่นๆอีก 8 เกาะ ได้แก่ เกาะหมู เกาะเปียกน้ำน้อย เกาะเปียกน้ำใหญ่ เกาะเทา เกาะค้างคาว เกาะล้าน เกาะกำหนุ่ย และเกาะไข่ใหญ่ ชายฝั่งมีลักษณะจม ก่อให้เกิดชายหาดแคบๆมากมาย มีคลองสั้นๆหลายสายที่ไหลมาจากที่สูงตอนในของแผ่นดินและไหลลงสู่ทะเลอันดามัน เช่น คลองของ คลองลัดโนด คลองขะนุด คลองบางเบน คลองเหล่านี้ได้พัดพาเอาตะกอนมาทับถมกันบริเวณปากคลองที่ไหลลงสู่ทะเลและพื้นที่ชายฝั่งโดยรอบ รอบๆหมู่เกาะกำและเกาะค้างคาวมีแนวปะการังเป็นจำนวนมาก เป็นที่หลบภัยและแหล่งผสมพันธุ์ของสัตว์น้ำหลายชนิด
[แก้]ความหลากหลายทางชีวภาพ

ชายฝั่งบริเวณปากคลองมีสภาพเป็นป่าชายเลน พืชที่พบในป่าบริเวณนี้ ได้แก่ โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก พังกาหัวสุมดอกขาว ถั่วดำ ถั่วขาว ตะบูนขาว และตะบูนดำ ส่วนป่าชายเลนบนชายฝั่งบริเวณอื่น จะพบพืชประเภทลำแพน แสมขาว และโปรงแดง บนชายหาดบางแห่งมีลักษณะเป็นป่าโปร่ง ซึ่งมีพืชประเภทสนทะเล หยีทะเล และจิกทะเล บริเวณตอนในของเกาะต่างๆ และบนเขาปากเตรียมบนเกาะบางเบน มีลักษณะเป็นป่าดงดิบ พืชที่พบได้แก่ ยาง หวาย และระกำ
ภายในอุทยานจะพบนกได้อย่างน้อย 175 ชนิด โดยเป็นนกประจำถิ่นอย่างน้อย 122 ชนิด เช่น นกยางทะเล เหยี่ยวแดง นกกระแตแต้แว้ด นกอพยพที่ไม่ได้มาผสมพันธุ์ประมาณ 60 ชนิด เช่น นกปากแอ่นหางลาย นกสติ๊นท์คอแดง นกเด้าดิน นกนางนวลแกลบธรรมดา และนกอพยพตามฤดูกาล 12 ชนิด เช่น เหยี่ยวนกเขาพันธุ์จีน เหยี่ยวนกเขาพันธุ์ญี่ปุ่น นกจาบคาหัวเขียว นกจับแมลงสีฟ้าท้องขาว ในจำนวนนี้มีนกชนิดหนึ่งที่ถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่ถูกคุกคามระดับนานาชาติ คือ นกหัวโตมลายู ซึ่งจัดเป็นนกชนิดหนึ่งในสองชนิดของนกที่พบในเขตอุทยานที่ใกล้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยด้วย โดยอีกชนิดหนึ่งคือ นกนางนวลแกลบหงอนใหญ่ ส่วนนกที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการถูกคุกคาม มีอยู่ชนิดหนึ่งที่พบได้ในเขตอุทยาน คือ นกกระเต็นใหญ่ปีกสีน้ำตาล และมีนกอีก 2 ชนิดที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการถูกคุกคาม คือ นกออก และนกเงือกกรามช้าง
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พบในเขตอุทยาน ได้แก่ กระแตธรรมดา บ่าง ลิงลม ลิงกัง ลิงแสม ค่างแว่นถิ่นใต้ อีเห็นธรรมดา หมีขอ หมูป่า กระจงเล็ก พญากระรอกดำ อ้นใหญ่ และเม่นหางพวง
[แก้]ความสำคัญและการใช้ประโยชน์

บริเวณหาดแหลมสนและหาดบางเบนเป็นแหล่งอาศัยของนกจำนวนมาก ส่วนแนวปะการังรอบเกาะกำและเกาะค้างคาวเป็นทั้งแหล่งอาศัย แหล่มหลบภัย และแหล่งผสมพันธุ์ของสัตว์ทะเลหลายชนิด และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki


ทะเลจังหวัดภูเก็ต

ทะเลจังหวัดภูเก็ต




จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะต่างจากจังหวัดอื่นอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่พื้นที่ของจังหวัดทั้งหมดเป็นเกาะในมหาสมุทรอินเดีย
จังหวัดที่ใกล้เคียงทางทิศเหนือ คือ จังหวัดพังงา ทางทิศตะวันออก คือ จังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ ทั้งเกาะล้อมรอบด้วยมหาสมุทรอินเดีย และยังมีเกาะที่อยู่ในอาณาเขตของจังหวัดภูเก็ตทางทิศใต้และตะวันออก การเดินทางเข้าสู่ภูเก็ตนอกจากทางเรือแล้ว สามารถเดินทางโดยรถยนต์ซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวผ่านทางจังหวัดพังงา โดยข้ามสะพานสารสินและสะพานคู่ขนาน คือ สะพานท้าวเทพกระษัตรี เพื่อเข้าสู่ตัวจังหวัด และทางอากาศโดยมีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตรองรับ ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ

เเหลมพรมเทพ




เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต มีทัศนียภาพที่สวยงาม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ได้รับความนิยม เป็นที่ตั้งของประภาคารกาญจนาภิเษก สุดปลายของแหลมพรหมเทพ มีชื่อว่าแหลมเจ้า บริเวณตัวแหลมซึ่งยื่นออกไปในทะเล มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยต้นตาลที่ขึ้นอยู่กลุ่มใหญ่
แหลมพรหมเทพ ถูกจัดเป็นหนึ่งในโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จุดเด่นคือ "ชมพระอาทิตย์ตกทะเล สวยที่สุดในประเทศไทย"

แหลมพันวา 



(อังกฤษ: cape Panwa) ตั้งอยู่ในเขตตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต บริเวณนั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด และยังคงความเป็นธรรมชาติของคนท้องถิ่นไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นที่ตั้งของโครงการก่อสร้างโรงแรมระดับห้าดาวเป็นจำนวนมาก โดยโรงแรมแห่งแรกที่ตั้งอยู่ที่แหลมนี้ คือ โรงแรมเคปพันวา เป็นโรงแรมระดับหรูแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต
แหลมพันวาอยู่ใกล้เคียงกับอ่าวตังเขิน ที่ยังมีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ ชายหาดมีแหล่งหญ้าทะเล แนวปะการัง และป่าชายเลน เป็นที่ตั้งของสถาบันวิจัยทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีรายงานการพบพะยูน เมื่อ พ.ศ. 2551 


เกาะราชา


เกาะราชาน้อยและราชาใหญ่เป็นเกาะที่อยู่ห่างออกมาจากแผ่นดินใหญ่และอยู่ใกล้เขตสันของไหล่ทวีป 

หาดป่าตอง 




อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร นับว่าเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นชายหาดที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ป่าตองจึงเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด
หาดป่าตองถูกถล่มโดยคลื่นสึนามิจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ปัจจุบัน หาดป่าตองเป็นหนึ่งในหาดสำคัญที่ติดตั้งระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิ มีการซ้อมอพยพและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ



ที่มา : 



ทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์








มีเนื้อที่ประมาณ 6,367.620 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,979,762.5 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดเพชรบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดชุมพร
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทย
ทิศตะวันตก ติดต่อกับสหภาพพม่า
ความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ ประมาณ 212 กิโลเมตร และชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 224.8 กิโลเมตร มีส่วนที่แคบที่สุดของประเทศอยู่ในเขตตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากอ่าวไทยถึงเขตแดนพม่าประมาณ 12 กิโลเมตร ระยะทางจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดินสายเอเชียหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ประมาณ 1999 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงเศษ และตามเส้นทางรถไฟสายใต้ ประมาณ 318 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง


สัญลักษณ์ประจำจังหวัด


ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกเกด (Manilkara hexandra)
ต้นไม้ประจำจังหวัด: เกด (Manilkara hexandra)
คำขวัญประจำจังหวัด: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สับปะรด สวยสด หาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ



อ่าวมะนาว


อ่าวมะนาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณอ่าวมะนาวมีทิวทัศน์สวยงาม ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้ และมีบริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว อ่าวมะนาวอยู่ในการควบคุมดูแลของกองบิน 5 และเคยเป็นยุทธภูมิในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2



มนต์เสน่ห์ 9 ทะเล ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 200 ก.ม.
จึงมีชายทะเลที่สวยงามและมีความโดดเด่นน่าท่องเที่ยวหลายแห่ง
จะว่าไปแต่ละแห่งก็สวยงามให้ความรู้สึกในการท่องเที่ยงที่แตกต่าง
แต่ได้ความเบิกบานไปทุกที่



ทะเลหัวหิน ทะเลแห่งความคลาสสิก ที่มีหาดทรายขาวยาวสุดสายตา 
น้ำทะเลใสสะอาดซัดมากระทบโขดหินที่กระจายอยู่บริเวณชายหาด 
กิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ การขี่ม้าชมชายหาด หรือเดินทอดน่อง
ซึมซับบรรยากาศสบายๆ ถือเป็น มนต์เสน่ห์ 9 ทะเลประจวบคีรีขันธ์
แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมมาเนิ่นนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุจับัน



ทะเลปราณ    หาดทรายสีนวล  ฟังเสียงคลื่นรับลมทะเล  อาบแดด
และลงเล่นน้ำให้ชื่นฉ่ำหัวใจ  สงบเงียบ สบายๆ ไม่พลุกพล่านมากนัก
ทางด้านใต้ของชายหาดเป็นเขากะโหลก อยากชมวิวหาดเมืองปราณ
บุรีจากมุมสูงก็สามารถปีนป่ายขึ้นไปยังด้านบนได้



ทะเลสามร้อยยอด เป็นหาดทรายที่สงบและเป็นธรรมชาติอยู่ติดกับ
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ทะเลค่อนข้างตื้น จึงสามารถลงเล่น
น้ำได้อย่างปลอดภัย ด้านทิศใต้ จะเห็นเกาะต่างๆ  4 เกาะ ได้แก่ เกาะ
โครำ เกาะนมสาว เกาะระวิง เกาะระวาง สามารถนั่งเรือไปเที่ยวเกาะ
ต่างๆได้ หากโชคดีระหว่างทางจะได้ชมฝูงโลมานับสิบตัวมาแหวก
ว่ายใกล้ชายฝั่ง



 ทะเลอ่าวประจวบ  มหัศจรรย์เมือง 3 อ่าว มีทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในอ่าว
ไทยตอนบน(ฝั่งตะวันตก)มนต์เสน่ห์ของอ่าวประจวบฯ ที่มีลักษณะ
โค้งเป็นครึ่งวงกลม งดงามด้วยทัศนียภาพของภูเขาและเวิ้งอ่าว ยิ่งช่วง
เวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำ คืนวันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง
ส่องแสงนวลสว่างไสวทั่วฟากฟ้า



ทะเลอ่าวมะนาว หาดขาวในอ่าวโค้งกลมคล้ายลูกมะนาว เป็นยุทธภูมิ
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองในเขตกองบิน 5 ถูกโอบล้อมด้วยเขา
ล้อมหมวกและเขาคลองวาฬ โดยเขาล้อมหมวกสุดหาดทางด้านทิศ
เหนือนั้น ด้านบนประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง ส่วนเชิงเขาเป็นที่
ตั้งของศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก และเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์ค่างแว่น


หาดวนกร ทับสะแก  หาดทรายใต้ร่มสน ร่มรื่นด้วยเงาสนทะเลและสน
ประดิพัทธ์ เรียงรายตลอดแนวหาด มีแหล่งดำน้ำดูปะการังที่เกาะจาน 
เกาะท้ายทรีย์ เกาะจาน มีหาดทรายขาวและสะอาดมากเหมาะแก่การ
ลงเล่นน้ำและดำน้ำสามารถดำน้ำได้เกือบตลอดทั้งปียกเว้นในช่วงมรสุม
หรือคลื่นลมแรงประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม



หาดบ้านกรูด ชายหาดสีขาวนวลสะอาดตา โค้งมนคล้ายพระจันทร์เสี้ยว
ขนานไปกับถนนเลียบหาดสวนมะพร้าว และทิวสนอันร่มรื่นกว่า 12 ก.ม.
สุดสายตาและมีพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศที่สร้างขึ้นอย่างสวยงาม
เด่นเป็นสง่าบนยอดเขาธงชัยให้ชื่นชม      



หาดดอนสำราญ   หาดที่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงาม มีหาดทราย
ขนาดใหญ่ เม็ดทรายขาวละเอียด เป็นหาดที่เชื่อมต่อระหว่างหาดบ้าน
กรูดกับหาดแม่รำพึง ทำให้หาดมีความยาวหลายกิโลเมตร ทุกปีมีฉลาม
วาฬแวะเวียนมาหาอาหารใกล้ฝั่ง



ทะเลบางเบิด หาดทรายสีแดงในอำเภอบางสะพานน้อยใกล้ๆกันมีชาย
หาดสีน้ำตาลแดง  สวยงามแปลกตา  เกิดจากการกัดกร่อนหินสีแดงจน
กลายเป็นผาสีแดงตระหง่านริมทะเล


     มนต์เสน่ห์แห่งทะเล   ประจวบคีรีขันธ์ใครได้ไปต้องหวนคืน 

ที่มา : http://remawadee.com/prajubb

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เที่ยวกระบี่ เกาะพีพี อ่าวมาหยา

อ่าวมาหยา 


อ่าวมาหยา


อ่าวมาหยา เวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยขุนเขา ที่ทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างยิ่ง น้ำทะเลสีเขียวสดใสจนแลเห็นพื้นทราย หาดทรายที่ขาวสะอาดทรายละเอียดเนียนนุ่มเป็นที่นิยมมาอาบแดด เล่นน้ำทะเลเดินเล่นชายหาดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยครั้งหนึ่งอ่าวมาหยาถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศเรื่องดังเรื่องหนึ่ง ภาพแห่งความสวยงามถูกถ่ายทอดออกสู่สายตาชาวโลก ชื่อเสียงของอ่าวมาหยาเป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น จนปัจจุบันอ่าวมาหยาเป็นที่ท่องเที่ยวชื่อดังอันดับต้นๆของโลก


ที่มา: http://travel.upyim.com

ทะเลใต้แสนสวย

 ทะเลใต้

 เกาะพีพี



หมู่เกาะพีพี เป็นหมู่เกาะอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่ในตำบลอ่าวนาง เขตอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีระยะทางระหว่างจากจังหวัดกระบี่ประมาณ 42 กิโลเมตร และห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 40 กิโลเมตร หมู่เกาะพีพีประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ รวมกัน 6 เกาะ ซึ่งประกอบด้วย เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะบิด๊ะนอก เกาะบิด๊ะใน เกาะยูง เกาะไผ่ นอกจากเกาะต่าง ๆ แล้วยังมีเวิ้งอ่าวที่สำคัญได้แก่ อ่าวโล๊ะลาน่า อ่าวโล๊ะดาลัม อ่าวหยงกาเส็ม อ่าวต้นไทร อ่าวโล๊ะบาเกา อ่าวผักหนาม อ่าวรันตี อ่าวบิเล๊ะ อ่าวมาหยา และอ่าวโล๊ะซามะ

ลักษณะเด่นของหมู่เกาะพีพี หมู่เกาะพีพีมีเนื้อที่รวมกันทั้งสิ้น 11.2 ตร.กม. เฉพาะเกาะพีพีดอนซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีเนื้อที่ประมาณ 9.408 ตร.กม.

สภาพโดยทั่วไปของหมู่เกาะพีพี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาโดยเฉพาะภูเขาหินปูนสูงชัน พื้นที่ราบและหาดทรายกระจายอยู่ทุกเกาะตลอดจนมีแนวปะการัง และสรรพชีวิตใต้ทะเลอุดมสมบูรณ์ หาดทรายขาวสะอาด มีปลาทะเลชนิดต่างๆ หลากหลายสีสัน และจะมีแพลงตอนจำนวนมาก น้ำทะเลมีสีเขียวอมฟ้าใสงามดังมรกต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกในความงดงามตามธรรมชาติจนได้รับการขนานนามว่าเป็น " มรกตแห่งอันดามันสวรรค์เกาะพีพี" เหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปชมทัศนียภาพทางทะเลเป็นอย่างดี


อ่าวมาหยา






เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและ ชื่อเสียงในด้านใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง The Beach โดยลักษณะทั่วไปของอ่าวมาหยา จะมีภูผาที่ปกครอบด้วยพรรณไม้สีเขียวโอบล้อมเปรียบเสมือนกำแพงอ่าว น้ำทะเลที่ใสดุจดังกระจกสามารถมองเห็นพื้นทรายหรือปะการังเบื้องล่างได้อย่างง่าย เมื่อขึ้นสู่ชายหาดจะสัมผัสได้กับพื้นทรายที่ขาวนวลละเอียด และเมื่อมองออกไปเบื้องหน้าภายนอกเปรียบเสมือนเราถูกโอบล้อมด้วยขุนเขามีเบื้องหน้าเปรียบเสมือนประตูเข้ามา ยามผู้คนน้อยนิดไม่ผิดอะไรกับอีกโลกหนึ่งที่เราสัมผัสได้ ช่วงเหมาะกับการเที่ยวอ่าวมาหยานั้นอยู่ในช่วงตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งในช่วงนี้จะมีสภาพคลื่นลมไม่แรง เพราะถ้าคลื่นลมแรงจะทำให้น้ำบริเวณนั้นขุ่นไม่ใส และช่วงนี้หาดทรายจะทอดตัวเป็นแนวราบยาวลงทะเล แต่ถ้าเป็นช่วงมรสุมจะมีสภาพคลื่นลมค่อนข้างแรงมาก ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ และบริเวณหาดทรายจะถูกคลื่นซัดยกตัวขึ้นสูงจนบางครั้งไม่สามารถขึ้นสู่ฝั่งได้ และการเดินทางไปบริเวณอ่าวมาหยาในช่วงมรสุมนั้นถือว่าค่อนข้างอันตรายมาก ยิ่งถ้าเป็นเรือเล็กขอห้ามโดยเด็ดขาด


ที่มา  http://www.andamanguide.com/travel_guide/krabi_koh_phi_phi.html

ท่องเที่ยวทะเลไทย : จ. ปัตตานี


1.   หมู่บ้านปะเสยะวอ  หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในการต่อเรือกอและเป็นเรือประมงที่มีหัวท้ายแหลม  มีลวดลาย  สีสันงดงาม  ตั้งอยู่บนเส้นทางสายปะนาเระ-สายบุรี
2.   ปากน้ำปัตตานี  เป็นหมู่บ้านชาวประมงมีทิวมะพร้าวนับพันเหมือนหมู่บ้านชาวประมงหาดบางนรา  ของนราธิวาส  ในช่วงยามเย็นจะมีบรรยากาศที่น่างดงาม  บริเวณใกล้ๆ ปากน้ำปัตตานีเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ตัวปากน้ำอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร
3.   หาดแฆแฆ  อยู่ที่อำเภอปะนาเระ  ตัวหาดอยู่ในหุบเขาเตี้ยๆ ล้อมรอบด้วยโขดหิน  บนเนินเขามีศาลาพักผ่อนจุดชมทิวทัศน์เป็นหาดทรายที่สงบสวยงาม
4.   หาดตะโละกาโปร์  อยู่ในอำเภอยะหริ่ง  เป็นชายหาดที่มีทรายขาวสะอาด  และพื้นที่บริเวณนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยกระแสน้ำพัดเอาตะกอนทรายมาทับถมพอกพูน  เหมาะสำหรับพักผ่อน  เล่นน้ำ  บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสน
สินค้าพื้นเมือง
         ปัตตานีมีสินค้าพื้นเมืองน่าสนใจมากมาย  เช่น  ปลาหมึกแห้ง  น้ำบูดู  ข้าวเกรียบปลา  ลูกหยีกวน  เครื่องทองเหลือง  ผ้าปาเต๊ะ  กรงนกเขาปัตตานี  ฯลฯ
ร้านอาหาร
-   โรงแรมลอนดอน  ถ. ปัตตานีภิรมย์  อ.เมือง  โทร. 349697
-   ร้านไพลิน  อ.เมือง  โทร. 348655
-   ปัตตานีสปอร์ตคลับ  โทร.  335093-4
-   บ้านริมน้ำ  โทร. 349371
-   ร้านโกเส่ง  โทร. 331109

ที่มา http://www.formumandme.com/article.php?a=916

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

ทะเลจังหวัดสตูล

ทะเลจังหวัดสตูล

ประวัติ



     จังหวัดสตูล เป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย (ทางชายฝั่งทะเลอันดามัน) คำว่า "สตูล" มาจากคำภาษามลายูว่า "สโตย" แปลว่ากระท้อนซึ่งเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ชุกชุมในท้องที่นี้ โดยชื่อเมือง "นครสโตยมำบังสการา" (Negeri Setoi Mumbang Segara) นั้นหมายความว่า สตูล เมืองแห่งพระสมุทรเทวา ดังนั้น "ตราพระสมุทรเทวา" จึงกลายเป็นตราหรือสัญลักษณ์ของจังหวัดมาตราบเท่าทุกวันนี้

สัญญาลักษณ์

ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกกาหลง (Bauhinia acuminata)
ต้นไม้ประจำจังหวัด: หมากพลูตั๊กแตน (Dalbergia bariensis)
คำขวัญประจำจังหวัด: สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์
คำขวัญประจำจังหวัด (เดิม) : ตะรุเตา ไก่ดำ จำปาดะ คนใจพระ งามเลิศ เชิดสตูล

ขนาดและที่ตั้ง

    จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทยทางชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นชายฝั่งทะเลทางด้านตะวันตกของประเทศไทย อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 6 องศา 4 ลิปดา ถึง 7 องศา 2 ลิปดาเหนือ กับเส้นแวงที่ 99 องศา 5 ลิปดา ถึง 100 องศา 3 ลิปดาตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 973 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 2,478.997 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,549,361 ไร่ เป็นลำดับที่ 63 ของประเทศ และลำดับที่ 12 ของภาคใต้ รองลงมาคือ จังหวัดปัตตานีและจังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดตรังทางทิศเหนือ จังหวัดสงขลาทางทิศตะวันออก และรัฐปะลิส ประเทศมาเลเซียตลอดแนวชายแดน (ทางทิศใต้) ยาวประมาณ 56 กิโลเมตร ติดต่อฝั่งอันดามันยาวประมาณ 144.8 กิโลเมตร เป็นพื้นที่เกาะประมาณ 88 เกาะ



อุทยานแห่งชาติตะรุเตา 





      เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสตูล มีชื่อเสียงที่โด่งดังทางด้านธรรมชาติ และตั้งอยู่ในเขตทะเลอันดามัน เดือนที่เหมาะแก่ท่องเที่ยวอยู่ในระหว่างเดือน พฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน เกาะตะรุเตา มีพื้นที่ 152 ตารางกิโลเมตร สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่มีสภาพเป็นป่าดิบชื้นซึ่งยังมีพรรณไม ้และสัตว์ป่าที่น่าสนใจจำนวนไม่น้อย และมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นป่าชายเลน นอกจากนี้ยังมีอ่าวน้อยใหญ่ที่มีชายหาดสวยงามอยู่หลายแห่ง และในท้องทะเลของเกาะตะรุเตายังมีพันธุ์ปลามากมายหลายชนิดรวมทั้งเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 4 ชนิด คำว่า “ตะรุเตา” นี้ เพี้ยนมาจาก คำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายูแปลว่า มีอ่าวมาก

อุทยานแห่งชาติทะเลบัน 






      เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสตูล ถึงแม้จะมีชื่อว่าทะเลบัน แต่ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติทางทะเล แต่เป็นการเรียกชื่อหนองน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการยุบตัวของพื้นดินในอดีต




อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา








 เมื่อปี 2525 ผู้อำนวยการกองอุทยานแห่งชาติ ได้เห็นว่า สภาพธรรมชาติที่เป็นเกาะแก่ง หาดทรายชายทะเล ในบริเวณชองแคบมะละกา เขตจังหวัดสตูล ยังมีความบริสุทธิ์สมบูรณ์อยู่มาก น่าจะได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสตูลด้วย กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งที่ให้เจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจหาข้อมูลบริเวณหมู่เกาะเภตรา ปรากฏว่า มีสภาพเป็นเกาะใหญ่น้อยหลายเกาะ โดยมีเกาะขนาดใหญ่อยู่ 2 เกาะ คือ เกาะเภตรา และเกาะเขาใหญ่ สภาพป่าสมบูรณ์ ทิวทัศน์ทางทะเลสวยงาม มีปะการัง หาดทรายขาวสะอาด มีโขดหิน หน้าผา ถ้ำ และเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา ทั้งเป็นที่วางไข่และอยู่อาศัยของเต่าทะเลหลายชนิด เหมาะที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้


กองอุทยานแห่งชาติได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2526 เห็นสมควรให้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเกาะเภตรา เกาะเขาใหญ่ และหมู่เกาะใกล้เคียงในพื้นที่ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ตำบลตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า ตำบลแหลมสน และตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 101 ตอนที่ 200 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2527 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 49 ของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 494.38 ตารางกิโลเมตร





การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป จ.สตูล

รถยนต์

     จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านเข้าเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง จากพัทลุงไปอำเภอรัตนภูมิ จังหวัดสงขลา ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 แล้วแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 406 ถึงจังหวัดสตูล ระยะทาง 973 กิโลเมตร

รถไฟ

     สามารถเดินทางไปกับขบวนรถกรุงเทพฯ-ยะลา หรือ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ได้ โดยลงที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จากนั้นนั่งรถแท็กซี่ รถจอดที่ใต้สะพานลอย หน้าที่ทำการไปรณีย์ สาขารัถการ หรือรถตู้โดยสาร หรือนั่งรถโดยสารประจำทางเข้าจังหวัดสตูล ระยะทาง 97 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง โทร. 223-7010, 223-7020 หรือ www.railway.co.th

รถโดยสารประจำทาง

     มีรถโดยสารปรับอากาศและรถธรรมดา กรุงเทพฯ-สตูล ทุกวัน รถออกที่สถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 894 6122 จองตั๋ว บขส. โทร. 02 422 4444 หรือ www.transport.co.th

เครื่องบิน

     ไม่มีเที่ยวบินบินตรงไปจังหวัดสตูล แต่สามารถใช้บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ แล้วต่อรถแท็กซี่หรือรถโดยสารประจำทางจากตัวอำเภอหาดใหญ่เข้าจังหวัดสตูลอีกประมาณ 97 กิโลเมตร




ที่มา : http://www.ezytrip.com/travel/000470.htm

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

ทะเลจังหวัดสุราษฏร์ธานี

ทะเลจังหวัดสุราษฏร์ธานี


ประวัติ


      จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภาคใต้ โดยมีสภาพภูมิประเทศที่หลายหลายทั้งที่ราบสูง ภูมิประเทศแบบภูเขา รวมทั้งที่ราบชายฝั่ง มีพื้นที่ครอบคลุมถึงในบริเวณอ่าวไทย ทั้งบริเวณที่เป็นทะเลและเป็นเกาะ เกาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์มีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เกาะขนาดใหญ่เป็นที่รู้จักเช่นเกาะสมุย เกาะพะงัน และหมู่เกาะอ่างทอง เนื่องจากทำเลที่ตั้งจึงได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดบริเวณทะเลอันดามันบ้างเป็นครั้งคราวเนื่องจากจะมีแนวเทือกเขาตะนาวศรี เทือกเขาภูเก็ต และเทือกเขานครศรีธรรมราช  แถบบริเวณจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแนวช่วยลดอิทธิพลของลมมรสุมดังกล่าว ในทางกลับกันพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปกติจะมีแหล่งกำเนิดบริเวณทะเลจีนใต้และอ่าวไทย ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีช่วงฤดูฝนกินระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมกราคม
ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ โดยประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรเป็นหลัก โดยใช้พิ้นที่ในการทำการเกษตรประมาณร้อยละ 45 ของพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังประกอบอาชีพทางด้านปศุสัตว์ ประมง อุตสาหกรรม รวมทั้งมีการทำเหมืองแร่ด้วย
ส่วนการเดินทางมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานีสามารถใช้ได้หลายเส้นทาง ทั้งทางรถไฟ เครื่องบิน รถโดยสารประจำทาง เรือ และรถยนต์ส่วนบุคคล
สถานที่สำคัญภายในจังหวัดนั้น มีทั้งแหล่งโบราณสถาน เช่น พระบรมธาตุไชยา พระธาตุศรีสุราษฎร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา ซากเมืองโบราณสมัยอาณาจักรศรีวิชัย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติทั้งอุทยานแห่งชาติทางบก และอุทยานแห่งชาติทางทะเล น้ำตก เกาะ แม่น้ำ เขื่อน วัด และพระอารามหลวง เป็นต้นและยังเป็นแหล่งสืบสานประเพณีที่สำคัญของชาวใต้ คือประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่าและแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานอีกด้วย

สัญญาลักษณ์ประจำจังหวัด


 ตราประจำจังหวัด คือ พระบรมธาตุไชยา ซึ่งมีศิลปะแบบศรีวิชัย ตั้งอยู่ ณ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร โดยสร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 และเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย 
ต้นไม้ประจำจังหวัด ได้แก่ ต้นเคี่ยม (Cotylelobium melanoxylon)
ดอกไม้ประจำจังหวัด ได้แก่ ดอกบัวผุด (Rafflesia kerrii) ตั้งอยู่อำเภอพนม
คำขวัญประจำจังหวัด ได้แก่ เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ
คำขวัญประจำจังหวัดในอดีต แต่งโดยพระเทพรัตนกวี (ก.ธรรมวร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี: "สะตอวัดประดู่ พลูคลองยัน ทุเรียนหวานมันคลองพระแสง ย่านดินแดงของป่า เคียนซาบ่อถ่านหิน พุนพินมีท่าข้ามแม่น้ำตาปี ไม้แก้วดีเขาประสงค์ กระแดะดงลางสาด สิ่งประหลาดอำเภอพนม เงาะอุดมบ้านส้อง จากและคลองในบาง ท่าฉางต้นตาล บ้านนาสารแร่ ท่าทองอุแทวัดเก่า อ่าวบ้านดอนปลา ไชยาข้าว มะพร้าวเกาะสมุย"

เกาะสมุย


        ในอดีตคนไทยรู้จักเกาะสมุยว่ามีมะพร้าวพันธุ์ดีมากที่สุดปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั่วโลกเรียกขานเกาะสมุยว่า สวรรค์กลางอ่าวไทยเกาะสมุยมีหาดทรายขาวสวยขนานไปกับทะเลและทิวมะพร้าวริมชายหาดเกือบรอบเกาะ เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่สร้างความหลงไหลให้กับผู้มาเยือน โรงแรมสมุยกลายเป็นหนึ่งในที่พักอันดับต้นๆที่มีการจองเข้ามาทั้งจากภายในและต่างประเทศ ไม่เพียงเกาะสมุยเท่านั้นบรรดาเกาะบริวารและหมู่เกาะใกล้เคียงก็ล้วนมีทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง จนนักท่องเที่ยวที่มาสมุยรู้สึกถึงความคุ้มเกินค่าการเดินทาง แต่ละหาดบนเกาะมีบรรยากาศการท่องเที่ยวที่แตกต่างกันไปเช่นหาดเฉวงมีทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส เหมาะแก่การเล่นน้ำ หาดละไมมีอ่าวโค้งสวยงาม หาดตลิ่งงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ ไม่เพียงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเท่านั้นเกาะสมุยยังพร้อมไปด้วยที่พักร้านอาหาร บริการนำเที่ยว สถานบรรเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันการเดินทางไปยังเกาะสมุยนั้นสะดวกมาก มีทั้งเรือโดยสารเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งที่ออกเกือบทุกชั่วโมงและยังมีเที่ยวบินตรงมายังเกาะสมุยอีกด้วย

หาดตลิ่งงาม 



      อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ ด้านหน้าของอ่าวเป็นที่ตั้งของเกาะสี่ เกาะห้า ตอนเหนือของอ่าวเป็นท่าเรือเฟอร์รี่เดินระหว่างท่าดอนสัก - เกาะสมุย ถัดมาทางใต้เป็นหาดที่มีชื่อเสียงในการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะ มีมุมมองที่เห็นภาพดวงอาทิตย์ตกลงระหว่างเกาะสี่ - เกาะห้า ค่อยๆหายลับขอบฟ้าที่ตัดกับน้ำทะเล เกิดเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม ในช่วงเย็นจึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมารอชมและถ่ายรูปที่ หาดนี้กันมาก บริเวณหาดแห่งนี้ยังเป็นจุดหาเช่าเรือเดินทางไปยังเกาะสี่ - เกาะห้า เพื่อดำน้ำ ชมปะการัง หรือพักผ่อนด้วยการตกปลาก็ได้

เกาะแตน 



     ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลตลิ่งงาม บริเวณตอนใต้ของเกาะสมุย เป็นเกาะที่งดงามด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ ชายหาดยาวทิวมะพร้าวเรียงราย ทางฝั่งตะวันออกของเป็นชายหาดยาวขนานกับแนวปะการังชายฝั่ง เรียกว่า อ่าวออก ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นอ่าวปิด มีป่าชายเลนไม่กว้างนักและหาดหิน เรียกว่า อ่าวตก มีแนวปะการังและชายฝั่งที่ค่อนข้างสมบูรณ์ สิ่งที่น่าสนใจบนเกาะนี้คือไม่มีสุนัขอาศัยอยู่บนเกาะ มีการสันนิฐานกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเพราะเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพารักษ์ไม่ต้องการสุนัข หรือการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เช่น เกาะแตน มีคลื่นเสียง สนามแม่เหล็ก หรือเชื้อโรคบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อสุนัข เป็นต้น จนไม่มีใครกล้าจะนำสุนัขมาลองเลี้ยงดู เพราะไม่เคยมีสุนัขตัวไหนมีชีวิตอยู่รอดได้ นอกจากนั้นบริเวณเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะมัดสุม เกาะมดแดง มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยงามสามารถดำน้ำตื้นได้ บนเกาะมีที่พักบริการนอกจากความสมบูรณ์ของป่าและธรรมชาติบนเกาะแล้ว เกาะแตนยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 4 เส้นทาง ซึ่งทุกเส้นทางนักท่องเที่ยวจะเห็นความแตกต่างของสภาพภูมิประเทศและความเป็นอยู่ของชาวเกาะแตน โดยเฉพาะ 3 เส้นทางแรกจะได้พบกับนกหลากชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะแตน จึงควรที่จะเตรียมกล้องส่องดูนก กล้องถ่ายรูป และสมุดบันทึกติดตัวไปด้วยเพื่อเป็นการบันทึกความทรงจำและความประทับใจที่ได้พบ สำหรับเส้นทางที่ 4 เป็นเส้นทางทางทะเล จะได้พบความสวยงามของใต้ทะเลและชายฝั่งของเกาะแตนทั้งบนบกและในน้ำ

เกาะเต่า





      เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทย อยู่ห่างจากอำเภอเกาะพะงัน 45 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในอดีตกรมราชทัณฑ์ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ เกาะเต่ามีประชาชนมาอาศัยตั้งแต่ปี 2490 เป็นเกาะที่มีธรรมชาติและความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล สวยงามด้วยแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ปลาหลากชนิดสีสวย ๆ มากมายที่นักดำน้ำจะต้องนึกถึง และชายหาดที่มีหาดทรายขาวสวยสงบน่าพักผ่อนหลายหาด มีโรงเรียนสอนดำน้ำมากมายที่สามารถผลิตนักดำน้ำได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ

ข้อมูลการเดินทางมาจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4 โดยผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงสุราษฎร์ธานี รวมระยะทาง 685 กิโลเมตร

- รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีบริการเดินรถทุกวัน ระยะทาง 650 กิโลเมตร ผู้โดยสารต้องไปลงที่สถานีรถไฟอำเภอพุนพิน ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถประจำทางหรือแท็กซี่เข้าตัวจังหวัด ระยะทาง 13 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน โทร. 0 7731 1213 www.raiway.co.th 

- เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานีทุกวัน ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียด โทร. 1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000 สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7727 2610, 0 7727 3710 ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โทร 0 7725 3500 ต่อ 262 www.thaiairways.com นอกจากนี้ บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที สอบถามรายละเอียด โทร. 0 2265 5555 หรือ เกาะสมุย โทร. 0 7742 2512-8 www.bangkokairways.com 


- การเดินทางจากจังหวัดใกล้เคียง รถโดยสารประจำทาง จากสุราษฎร์ธานีมีรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต และรถโดยสารธรรมดาไปจังหวัดต่าง ๆ ทุกจังหวัดทางภาคใต้ รายละเอียดติดต่อที่สถานีขนส่ง ถนนสุราษฎร์ธานี-พุนพิน โทร. 0 7720 0032-3
รถไฟ จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน มีรถไฟไปจังหวัดนราธิวาส ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา ไชยา ชุมพร หัวหิน รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 7731 1213





ที่มา : http://www.aic.sru.ac.th/index.php/2008-10-02-15-39-32